Tel : 0-2680-5800

ติดตั้งสายไฟฟ้าใต้ดินต้องฝังดินลึกเท่าไร?

ปัจจุบันการติดตั้งสายไฟฟ้าใต้ดินได้รับความนิยมนำมาใช้กับการติดตั้งสายไฟฟ้าแรงดันต่ำในบ้านพักอาศัยมากขึ้น เช่น การเดินสายเมนจากมิเตอร์ไฟฟ้าเข้ามายังตัวบ้าน หรือการเดินสายไปยังจุดใช้งานภายนอกบ้าน เช่น การเดินสายเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การเดินสายสำหรับปั๊มน้ำหรือไฟแสงสว่างในสวน ซึ่งแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและมีความยุ่งยากในการติดตั้งมากกว่าวิธีการเดินสายเหนือดิน แต่ก็แลกมาด้วยความเรียบร้อยสวยงามของพื้นที่เพราะไม่มีเส้นสายไฟฟ้าหรือท่อร้อยสายรบกวนทัศนียภาพ นอกจากนี้สายไฟฟ้าใต้ดินยังมีโอกาสเกิดความเสียหายเนื่องจากลมพายุและอุบัติเหตุที่สายไฟถูกเกี่ยวดึงน้อยกว่าการเดินสายลอยในอากาศอีกด้วย

การติดตั้งสายไฟฟ้าใต้ดินสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งการติดตั้งในท่อร้อยสายใต้ดินและการติดตั้งสายฝังดินโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถวางแผ่นคอนกรีตบนแนวสายไฟเพื่อเสริมการป้องกันทางกายภาพได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ความลึกในการติดตั้งสายไฟฟ้าใต้ดินรูปแบบต่างๆที่เป็นที่นิยมตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยมีรายละเอียดดังรูป

หมายเหตุ :
1.การติดตั้งสายใต้อาคาร ไม่บังคับเรื่องความลึก
2.ความลึกของการฝังสายไฟฟ้าหรือท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินวัดจากส่วนบนของสายไฟหรือท่อถึงพื้นผิวบนสุดของส่วนปกคลุม

การติดตั้งสายไฟใต้ดินสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป แนะนำให้เดินสายร้อยท่อฝังดินเนื่องจากท่อร้อยสายไฟจะช่วยป้องกันสายไฟจากสภาพแวดล้อมและอุบัติเหตุต่างๆได้ดีกว่าการติดตั้งสายแบบฝังดินโดยตรง เช่น การป้องกันน้ำและความชื้นใต้ดิน การช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟถูกเจาะ ดึง กระแทก หรือกดทับโดยตรง ซึ่งอาจเกิดจากการทรุดตัวของชั้นดิน หรืออุบัติเหตุจากการขุดเจาะพลาดไปโดนสายไฟโดยไม่ตั้งใจ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่


ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


การระบุสัญลักษณ์ของตัวนำ หรือ สีของสายไฟฟ้า มีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการติดตั้งระบบไฟฟ้าอย่างมาก เพราะหากไม่ทำให้ถูกต้องตามมาตรฐานอาจทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดในการแยกแยะการต่อวงจรของตัวนำ เช่น ต่อตัวนำสลับเฟส หรือต่อวงจรผิดจนมีกระแสไฟไหลในสายดิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้ 

การติดตั้งระบบไฟฟ้าในประเทศไทย โดยทั่วไปจะต้องปฏิบัติให้สอดคล้องเป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ ที่ออกโดยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งมาตรฐานล่าสุดคือฉบับปี พ.ศ.2564 ได้มีการกำหนดวิธีการระบุสัญลักษณ์ตัวนำด้วยการใช้สีและการทำเครื่องหมายเป็นตัวอักษรไว้ในหัวข้อ 5.1.11 การระบุสัญลักษณ์ตัวนำสำหรับระบบแรงต่ำ (กระแสสลับ) ที่มีการต่อลงดิน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้

สีของสายไฟฟ้า และการระบุสัญลักษณ์ตัวนำ ตามมาตรฐานกำหนด

ข้อสังเกตจากมาตรฐานการติดตั้ง ฯ

1. สำหรับสายแกนเดียวขนาดใหญ่กว่า 16 ตร.มม. โดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตสายไฟฟ้าจะผลิตสายเป็นสีดำเป็นมาตรฐานของโรงงาน จึงมีการอนุญาตให้ใช้สายสีดำยาวตลอดทั้งเส้นและใช้วิธีทำเครื่องหมายเป็นสีหรือตัวอักษรแทนการทำฉนวนเป็นสีได้

2. สำหรับสายแกนเดียวที่ใช้เป็นสายดิน นอกจากจะใช้สายหุ้มฉนวนแล้ว ยังสามารถใช้สายตัวนำเปลือยได้

3. สีฉนวนสายดิน แม้จะอนุโลมให้ใช้สีเขียวได้สำหรับสายไฟฟ้าแกนเดียว แต่มาตรฐานต้องการให้ใช้สีเขียวแถบเหลืองเป็นทางเลือกแรกมากกว่า เช่นเดียวกับกรณีการทำเครื่องหมายเป็นตัวอักษรที่มาตรฐานต้องการให้ใช้อักษร PE เป็นทางเลือกแรกมากกว่าการใช้ตัวอักษร G หรือ E ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล IEC ที่กำหนดให้ใช้สีเขียวร่วมกับสีเหลือง หรือใช้ตัวอักษร PE เป็นสัญลักษณ์สำหรับ Protective Conductor ซึ่งก็คือสายดินป้องกันหรือสายดินของอุปกรณ์ไฟฟ้านั่นเอง

สำหรับสายไฟฟ้าแกนเดียว โดยเฉพาะสาย 60227 IEC 01 (THW) ซึ่งเป็นสายที่ใช้เดินในบ้านและอาคารโดยทั่วไป ในท้องตลาดจะมีสีสายไฟฟ้าให้เลือกหลากหลายสีสำหรับสายขนาดไม่เกิน 16 ตร.มม. การเลือกใช้จึงต้องเลือกสีสายไฟฟ้าให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ ดังที่กล่าวมา ส่วนสายแกนเดียวขนาดใหญ่กว่า 16 ตร.มม. ที่มักจะผลิตเป็นสีดำ ก็จำเป็นต้องทำเครื่องหมายเป็นสี หรือตัวอักษรบริเวณที่มีจุดต่อสายและทุกปลายสายให้ถูกต้องตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฯ ด้วยเช่นกัน

สำหรับสายไฟฟ้าชนิดหลายแกน ผู้ผลิตจะผลิตให้มีสีฉนวนเป็นไปตามมาตรฐานอ้างอิงอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อควรระวังในการเลือกสายไฟฟ้าดังนี้

สีของสายไฟฟ้า กรณีเลือกสายที่มีตัวนำ 3 แกน จะมีสีฉนวนให้เลือกสองแบบด้วยกันคือ 

  • แบบที่หนึ่ง ฉนวนน้ำตาล, สีฟ้า และสีเขียวแถบเหลือง สำหรับใช้กับระบบไฟฟ้า 1 เฟสที่มีสายดิน และ
  • แบบที่สอง ฉนวนสีน้ำตาล. สีดำ และสีเทา สำหรับใช้กับระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่ไม่มีทั้งสายนิวทรัลและสายดิน
สีของสายไฟฟ้า แบบหลายแกน

สีของสายไฟฟ้ากรณีเลือกสายที่มีตัวนำ 4 แกน จะมีสีฉนวนให้เลือกสองแบบด้วยกันคือ 

  • แบบที่หนึ่ง ฉนวนสีน้ำตาล. สีดำ, สีเทา และสีเขียวแถบเหลือง สำหรับใช้กับระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่มีสายดิน แต่ไม่มีสายนิวทรัล
  • แบบที่สอง ฉนวน สีน้ำตาล, สีดำ, สีเทา และสีฟ้า สำหรับใช้กับระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่มีสายนิวทรัลแต่ไม่มีสายดิน 
สีของสายไฟฟ้า แบบหลายแกน

ทั้งนี้ การใช้สายไฟฟ้าที่ระบุสีฉนวนถูกต้องตามมาตรฐาน จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดในการแยกแยะตัวนำสายไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการแก้ไขหรือต่อเติมระบบไฟฟ้าในภายหลัง

มาตรฐาน IEC ที่ว่าด้วยเรื่อง การระบุสัญลักษณ์ตัวนำด้วยการใช้สีหรือตัวอักษร คือมาตรฐาน IEC 60445 ซึ่งสามารถสรุปการแนะนำในการระบุสัญลักษณ์ของตัวนำไว้ ดังตาราง

จะเห็นได้ว่า โดยหลักแล้ว การระบุสัญลักษณ์ตัวนำตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย มีพื้นฐานมาจากมาตรฐาน IEC 

อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างบางประการที่พบระหว่างมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย และมาตรฐาน IEC 60445 ดังนี้

  1. มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยอนุโลมให้ใช้สีเขียวสำหรับสายดิน กรณีที่เป็นสายไฟฟ้าแกนเดียวได้ แต่มาตรฐาน IEC กำหนดให้ต้องใช้สีเขียวและสีเหลืองร่วมกันเท่านั้น และไม่ให้ใช้สีเขียวหรือสีเหลืองร่วมกับสีอื่น ในการระบุสัญลักษณ์ตัวนำอื่น ๆ เพื่อป้องกันความสับสนด้วย นอกจากนี้ มาตรฐาน IEC ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สีเขียวหรือสีเหลืองสีใดสีหนึ่งเพียงสีเดียวในการระบุสัญลักษณ์ตัวนำ เว้นแต่กรณีที่แน่ใจว่าจะไม่เกิดความสับสนในการแยกแยะตัวนำ
  1. สำหรับตัวนำสายนิวทรัล มาตรฐาน IEC กำหนดสีด้วยคำภาษาอังกฤษว่า Blue ซึ่งให้ความหมายครอบคลุมทั้งสีน้ำเงินและสีฟ้าในภาษาไทย โดยมาตรฐานแนะนำให้ใช้สีฟ้า (Unsaturated colour blue หรือ Light blue) เพื่อป้องกันความสับสนกับสีอื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามใช้สีน้ำเงิน ส่วนมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย กำหนดให้สายนิวทรัลใช้สีฟ้าเท่านั้น
  2. นอกจากนี้ มาตรฐาน IEC ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สีเขียวหรือสีเหลืองสีใดสีหนึ่งเพียงสีเดียวในการระบุสัญลักษณ์ตัวนำ เว้นแต่กรณีที่แน่ใจว่าจะไม่เกิดความสับสนในการแยกแยะตัวนำ
  3. การใช้สีเขียวและสีเหลืองร่วมกันสำหรับสายดิน มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยกำหนดให้เป็นสีเขียวแถบเหลือง ซึ่งตีความได้ว่าพื้นที่ผิวส่วนที่เห็นเป็นสีเขียวจะมีมากกว่าพื้นที่ผิวส่วนเส้นแถบที่เห็นเป็นสีเหลือง แต่ในมาตรฐาน IEC ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าต้องใช้สีใดเป็นสีพื้นและสีใดเป็นเส้นแถบ แต่กำหนดโดยให้พื้นที่ผิวของสีใดสีหนึ่งอยู่ระหว่าง 30% – 70% และพื้นที่ผิวที่เหลือเป็นอีกสีหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าจะใช้เป็นสีเขียวแถบเหลือง หรือสีเหลืองแถบเขียวก็ได้ หรืออาจใช้เป็นสีเขียวและสีเหลืองที่มีพื้นที่เท่า ๆ กันสีละ 50% ก็ได้
  4. การกำหนดสีของตัวนำเส้นไฟในระบบไฟฟ้า 3 เฟส มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย กำหนดให้ เฟส 1 ใช้สีน้ำตาล, เฟส 2 ใช้สีดำ และเฟส 3 ใช้สีเทา แต่ในมาตรฐาน IEC ระบุว่าควรใช้ สีดำ, สีน้ำตาล และสีเทา โดยไม่ได้กำหนดเจาะจงลงไปว่าต้องใช้สีใดสำหรับเฟสใด หรือมีการเรียงลำดับอย่างไร ดังนั้นในต่างประเทศจึงอาจพบเจอการใช้สีฉนวนเรียงสลับเฟสแตกต่างไปจากที่ประเทศไทยใช้ได้ เช่น เฟส 1 ใช้สีดำ, เฟส 2 ใช้สีน้ำตาล และเฟส 3 ใช้สีเทา เป็นต้น

และสุดท้ายนี้ เฟ้ลปส์ ดอด์จ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ สีของสายไฟฟ้า และการระบุสัญลักษณ์ตัวนำ ตามมาตรฐานที่ประเทศไทยกำหนด รวมทั้งที่มาจากมาตรฐานสากล IEC แล้วอย่าลืมติดตามว่า เฟ้ลปส์ ดอด์จ จะนำบทความดี ๆ อะไรมาแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกนะคะ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่


ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


More Catalog

Price List

Extra high – high voltage Power cables

Medium voltage power cables

Low Voltage Power and Control Cables

Fire Resistant and Low Smoke Halogen Free cables 

Telecommunication Cables

Building Wire and Bare Conductor

สายไฟและมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.

แบบทั่วไป และ แบบบังคับ ต่างกันอย่างไร ?

สายไฟ มาตรฐานสายไฟ

วันนี้ เฟ้ลปส์ ดอด์จ จำขอนำมาตรฐาน มอก.ที่เกี่ยวกับสายไฟมาฝาก ซึ่งบทความนี้จะว่าด้วยเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. แต่ก่อนอื่น ขอให้ได้ทราบความหมายของ มอก.กันก่อน ก่อนที่จะแสดงข้อมูลของมาตรฐานที่ใช้กับสายไฟมาให้ทราบค่ะ

มอก. (Thai Industrial Standard) : มอก.เป็นคำย่อมาจาก “มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” หมายถึงข้อกำหนดทางวิชาการที่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)ได้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดโดยจัดทำออกมาเป็นเอกสารและจัดพิมพ์เป็นเล่ม

ทั้งนี้ความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ การใช้สินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก.มีประโยชน์ดังนี้

1.  ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และ สร้างความปลอดภัยในการนำไปใช้
2. ในกรณีที่ชำรุด สามารถหาอะไหล่ได้ง่าย เพราะสินค้ามีมาตรฐานเดียวกัน ใช้ทดแทนกันได้
3. ธีการบำรุงรักษาใกล้เคียงกัน ไม่ต้องเรียนรู้ใช้สินค้าใหม่ทุกครั้งที่ซื้อ
4. ได้สินค้าคุณภาพดีขึ้นในราคาที่เป็นธรรมคุ้มค่ากับการใช้งาน

สำหรับความต่างของเครื่องหมาย มอก. นั้น มีด้วยกันดังนี้

1.เครื่องหมายมาตรฐานแบบทั่วไป เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานไม่บังคับ ผู้ผลิตสามารถยื่นขอใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานได้ด้วยความสมัครใจ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดออกมามากที่สุด โดยปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 รายการ

สามารถเข้าดูรายการสินค้า มอก. ทั่วไป – สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ได้ที่
http://appdb.tisi.go.th/tis_dev/p3_tis/p3tis.php?data=B

2.เครื่องหมายมาตรฐานแบบบังคับ

เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่มีกฎหมายให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เศรษฐกิจของประเทศ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องผลิตและจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น ปัจจุบัน สมอ.ได้กำหนดออกมาแล้ว 68 รายการ

สามารถเข้าดูรายการสินค้า มอก. บังคับ – สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ได้ที่
http://appdb.tisi.go.th/tis_dev/p3_tis/p3tis.php?data=A

ทั้งนี้ประเทศไทยเรามีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สำหรับการผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าด้วยเช่นกัน โดยแบ่งเป็นมาตรฐานแบบทั่วไป และ มาตรฐานแบบบังคับ
โดยวันนี้ขอนำมาตรฐาน มอก.ของสายไฟฟ้าเฟ้ลปส์ ดอด์จ มาให้ทราบกันดังนี้

 มอก.สายไฟฟ้ามาตรฐานแบบทั่วไป ได้แก่

1.มอก. 64-2517 : สายไฟตัวนำทองแดงเปลือยรีดแข็ง
2.มอก. 838-2531 : สายไฟฟ้าสําหรับวงจรควบคุม
3.มอก. 2143-2546 : เช่น สายไฟ0.6/1 kV CV, 12/20 kV XLPE Cable
4.มอก. 2341-2555 : สาย สายไฟ SAC (Spaced Aerial Cable)

มอก.สายไฟฟ้ามาตรฐานแบบบังคับ ได้แก่

1.มอก. 11-2553 : เช่น สายไฟ THW, สายไฟ NYY, สายไฟ VCT
2.มอก. 85-2548 : สายไฟตัวนำอะลูมิเนียมเปลือย AAC, ACSR
3.มอก. 293-2541 : สายไฟ THW-A, สายไฟ WPC
4.มอก. 2202-2547 : สายไฟ 69 kV และ สายไฟ 115 kV XLPE Cable
5.มอก. 2434-2552 : สายโทรศัพท์ AP, AP(8)

เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในการเลือกใช้สินค้าต่างๆ และเพื่อความปลอดภัย มั่นใจในผลิตภัณฑ์และผุ้ผลิตสินค้า อย่าลืมเลือกใช้สินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย มอก. นะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม : มาตรฐานสายไฟฟ้า 

สีของฉนวนสายไฟตามมาตรฐาน

สายไฟสำหรับเดินภายในบ้าน 

เฟ้ลปส์ ดอด์จ ผู้ผลิตสายไฟฟ้าที่ดีที่สุด

Catalog    Price List 

Building Wire and Bare Conductor

Low voltage Power and Control Cables

เพราะเรื่องของสายไฟ..ไม่ใช่อะไรก็ได้
เฟ้ลปส์ ดอด์จ Life Line ทุกสายคือชีวิต
#สายไฟที่ดีที่สุดต้องเฟ้ลปส์ดอด์จ

พบตัวแทนจำหน่ายสายไฟฟ้าเฟ้ลปส์ ดอด์จ ทั่วประเทศ ได้ที่ http://www.pdcable.com/distribution-2/

📞Tel. ‭02 680 5800‬
🌏www.pdcable.com
📱Line@: @phelpsdodge_th

สายไฟฟ้าแต่ละชนิดใช้งานต่างกันอย่างไร?

“จำง่ายๆ สายไฟฟ้า แต่ละชนิดใช้งานต่างกันอย่างไร?”  วันนี้เฟ้ลปส์ ดอด์จ #รวมชนิดสายไฟฟ้า ที่ต้องใช้ติดตั้งใน #งานระบบไฟฟ้าสำหรับอาคารบ้านเรือนทั่วไป มาให้ทราบกันค่ะ ว่าในการติดตั้งงานระบบไฟฟ้าแต่ละรูปแบบนั้น ช่างไฟฟ้าจะเลือกใช้สายไฟฟ้าชนิดใดบ้าง? ซึ่งจะเป็นชนิดสายไฟฟ้า ที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดโดยทั่วไป หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ทั้งแบบม้วน  หรือ สายไฟฟ้าแบบแบ่งตัด ตามวัตถุประสงค์และจำนวนขนาดที่ต้องการของช่างไฟฟ้าที่ต้องทำการติดตั้งหน้างานค่ะ  มีสายไฟฟ้าชนิดใดกันบ้างนั้น มีข้อมูลดังนี้ค่ะ

สายไฟฟ้า

โดยทั่วไป ชนิดสายไฟฟ้าหลักๆ ที่ใช้ติดตั้งในงานระบบ มีด้วยกันดังนี้ค่ะ 🔌

 

1. 60227 IEC 01 (THW) สายไฟร้อยท่อ สำหรับบ้านและอาคารทั่วไป สายไฟสำหรับเป็นสายเมนเดินลอยในอากาศ (ขนาด 1.5 – 400 ตร.มม.)

 

2. THW-A   สายไฟฟ้าสำหรับเป็นสายเมนเดินลอยในอากาศนอกอาคาร

(ขนาด 10 – 300 ตร.มม.)

 

3. NYY  สายไฟฟ้าสำหรับสายเมน สายไฟสนาม สายไฟถนน สายไฟสำหรับวางบนรางเคเบิล ร้อยท่อ หรือฝังดิน

(1 แกน ขนาด 1 – 500 ตร.มม. , 2 – 4 แกน ขนาด 50 – 300 ตร.มม.)

(NYY-G 2 – 4 แกน + สายดิน ขนาด 25 – 300 ตร.มม.)

 

4. CV  สายไฟฟ้าสำหรับสายเมน สายไฟวางบนรางเคเบิลนอกอาคาร ร้อยท่อ หรือฝังดิน 

(1 แกน ขนาด 1.5 – 630 ตร.มม. , 2 – 4 แกน ขนาด 1.5 – 400 ตร.มม.)

สายไฟฟ้า

5. CV-FD สายไฟฟ้าสำหรับสายเมน สายไฟวางบนรางเคเบิลในอาคาร ร้อยท่อ

(1 แกน ขนาด 1.5 – 630 ตร.มม. , 2 – 4 แกน ขนาด 1.5 – 400 ตร.มม.)

 

6. PdfireTec (FRC) สายทนไฟสำหรับวงจรไฟฟ้าช่วยชีวิต วงจรไฟฉุกเฉิน

(1 แกน ขนาด 1.5 – 630 ตร.มม.)

 

7. VAF สายไฟฟ้าสำหรับเดินเกาะผนัง (ตีกิ๊บ) ในบ้านและอาคารทั่วไป

(ขนาด 1 – 16 ตร.มม.) , (VAF-G ขนาด 1 – 16 ตร.มม.)

สายไฟ

8. Station wire  สายโทรศัพท์ในอาคาร  (2-6 แกน ขนาด 0.5 – 0.65 มม.)

 

9. VCT  สายไฟฟ้าสำหรับต่อเข้ามอเตอร์ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า

(1-4 แกน ขนาด 4 – 35 ตร.มม.) , (VCT-G 2-4 แกน + สายดิน ขนาด 4 – 35 ตร.มม.)

 

10. PdsolarTec (PV Cable) สายไฟฟ้าสำหรับโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ

(ขนาด 2.5 – 240 ตร.มม.)

เพราะเรื่องของสายไฟ..ไม่ใช่อะไรก็ได้
เฟ้ลปส์ ดอด์จ Life Line ทุกสายคือชีวิต
#สายไฟที่ดีที่สุดต้องเฟ้ลปส์ดอด์จ

มั่นใจ ปลอดภัย ติดตั้งด้วยงานคุณภาพ ต้องสายไฟฟ้าเฟ้ลปส์ ดอด์จ
#สายไฟที่ช่างมืออาชีพทุกคนเลือกใช้

พบตัวแทนจำหน่ายสายไฟฟ้าเฟ้ลปส์ ดอด์จ ทั่วประเทศ ได้ที่ http://www.pdcable.com/distribution-2/

📞Tel. ‭02 680 5800‬
🌏www.pdcable.com
📱Line@: @phelpsdodge_th

สายไฟฟ้าที่ใช้สำหรับสายดิน🔌

สายไฟฟ้าที่ใช้สำหรับสายดิน มีลักษณะดังต่อไปนี้

  1. สายดินต้องเป็นสายตัวนำทองแดง ตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า
  2. สายดินอาจเป็นสายตัวนำทองแดงมีฉนวนหุ้มหรือไม่มีฉนวนหุ้ม (สายเปลือย) ก็ได้
  3. ตัวนำอาจเป็นตัวนำเส้นเดี่ยวหรือตีเกลียวก็ได้
  4. สีของฉนวนหรือเปลือกของสายดินต้องเป็นสีเขียวหรือสีเขียวแถบเหลือง
  5. โดยทั่วไปนิยมใช้สาย 60227 IEC 01 (THW) สีเขียวหรือเขียวแถบเหลืองเป็นสายดิน
  6. หรืออาจใช้สายไฟฟ้าชนิดหลายแกนที่มีสายดินรวมอยู่ด้วยก็ได้ เช่นสาย VAF-G, 60227 IEC 10, VCT-G หรือ NYY-G เป็นต้น

 

สายไฟฟ้าสำหรับสายดิน

สำหรับขนาดของสายดินตามมาตรฐานกำหนดของ วสท. มีดังต่อไปนี้

1.มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้ากำหนดขนาดตัวนำต่ำสุดโดยพิจารณาจากขนาดของเซอร์กิตเบรคเกอร์ตามตารางที่ 4-2 ของ วสท.

 

ขนาดของสายดินบริภัณฑ์ไฟฟ้า

ยกเว้น สายอ่อนพร้อมปลั๊กเต้าเสียบของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีสายดินเป็นแกนหนึ่งของสาย ซึ่งใช้ไฟจากวงจรที่มีเครื่องป้องกันกระแสเกินขนาดไม่เกิน 20 แอมแปร์ อาจมีขนาดสายดินเล็กกว่าที่กำหนดในตารางได้แต่ต้องไม่เล็กกว่าขนาดตัวนำของแกนสายเส้นไฟและไม่เล็กกว่า 1.0 ตร.มม.

2.ขนาดต่ำสุดของสายต่อหลักดิน พิจารณาจากขนานตัวนำสายเมน (ตัวนำทองแดง)

เพราะเรื่องของสายไฟ..ไม่ใช่อะไรก็ได้🔌

โดยเฉพาะเรื่องของกระแสไฟรั่ว..เนื่องจากเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า..

พื้นฐานการต่อลงดิน
พื้นฐานการต่อลงดิน

#การติดตั้งสายดินและการต่อลงดิน เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตเราและคนในครอบครัว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะหากบ้านเราไม่มีการต่อลงดิน หากเกิดกรณีเครื่องใช้ไฟฟ้ามีไฟรั่ว แล้วเราไปสัมผัสส่วนที่มีไฟรั่ว กระแสไฟฟ้าจะไหลจากอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านตัวเราลงสู่พื้นดิน ทำให้เราถูกไฟดูดได้และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากมีกระแสไฟรั่วปริมาณมาก แต่ถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการติดตั้งสายดินอย่างถูกต้อง #กระแสไฟฟ้าที่รั่วก็จะไหลผ่านสายดินแทน จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตค่ะ

วันนี้ เฟ้ลป์ส ดอดจ์ | Phelps Dodge นำความรู้เรื่องสายดินและการต่อลงดินที่ถูกต้องตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า สำหรับบ้านพักอาศัยมาแนะนำกัน ตามไปชมกันเลยค่ะ

 

👨‍🔧ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับการต่อลงดินกันก่อน การต่อลงดินเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต่ความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าอย่างมาก การต่อลงดินสำหรับระบบสายไฟฟ้าภายในอาคารประกอบด้วย 2 ส่วนคือ

🔌การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า คือการต่อระบบไฟฟ้าลงดินที่แผงเมนสวิตช์ (ตู้เมนไฟฟ้า) ซึ่งมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้ากำหนดให้ต่อสายเส้นนิวทรัลลงดินโดยใช้สายต่อหลักดินผ่านลงไปที่หลักดินซึ่งฝังลงไปในดิน โดยให้ทำที่แผงเมนสวิตช์เพียงจุดเดียวและไม่ให้มีการต่อสายนิวทรัลเข้ากับสายดินที่จุดอื่นใดอีก

🔌การต่อลงดินของอุปกรณ์ไฟฟ้า คือการเดินสายดินจากอุปกรณ์ไฟฟ้าไปต่อลงดินที่แผงเมนสวิตช์ โดยใช้หลักดินเดียวกันกับการต่อลงดินของระบบไฟฟ้าในข้อ1 สายดินเป็นสายที่เดินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเส้นจากสายเส้นไฟและสายนิวทรัล โดยต่อจากโครงหรือส่วนที่เป็นโลหะเปิดโล่งของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ด้านหลังของตู้เย็น , เครื่องปรับอากาศ , ไมโครเวฟ เป็นต้น ผ่านสายดินกลับไปที่แผงเมนสวิตช์และต่อลงดินที่หลักดิน ซึ่งในภาวะปกติสายดินจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เว้นแต่กรณีที่มีไฟรั่วที่อุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านสายดินไปลงดิน ทำให้ไม่เกิดอันตรายต่อตัวบุคคลที่ไปสัมผัสบริเวณที่มีไฟรั่ว

ความสำคัญของการต่อลงดินอย่างถูกต้อง
เพื่อความปลอดภัยของบุคคล กรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้ามีไฟรั่ว หากไม่มีการต่อลงดิน เมื่อบุคคลไปสัมผัสจุดที่มีไฟรั่วกระแสไฟจะไหลผ่านร่างกายลงดิน ทำให้ถูกไฟดูดและเป็นอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ แม้กระแสไฟรั่วไม่ถึง 1 แอมแปร์

แต่หากมีการต่อลงดิน กระแสไฟที่รั่วจะไหลผ่านสายดินแทนเพราะสายดินมีความต้านทานทางไฟฟ้าต่ำกว่าความต้านทานของร่างกายคนอย่างมาก การต่อลงดินจึงสามารถป้องกันอันตรายจากการถูกไฟดูดได้

เพื่อให้อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน (เซอร์กิตเบรกเกอร์) ทำงานได้อย่างสมบูณ์ กรณีที่เกิดการลัดวงจรและมีไฟรั่วปริมาณมากที่อุปกรณ์ไฟฟ้า หากมีการต่อลงดินของอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างถูกต้องจะทำให้กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านสายดินที่มีความต้านทานต่ำกลับไปครบวงจรที่แผงเมนสวิตช์ได้อย่างสะดวก เมื่อกระแสไฟลัดวงจรปริมาณมาก อุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินจึงทำงานตัดวงจรได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว

 

 

 

เลือกใช้สายไฟฟ้าคุณภาพสูงมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
https://www.pdcable.com/product-household/

#PhelpsDodge #สายไฟคุณภาพสูง
#มาตรฐานความปลอดภัย #ระดับโลก
#Safety #Lifeline #ทุกสายคือชีวิต

📞Tel. ‭02 680 5800‬
🌏www.pdcable.com
📱Line@: @phelpsdodge_th

 

 

วงจรไฟฟ้าในภายในบ้านที่มีหลายวงจร

วงจรไฟฟ้าในบ้าน

สายไฟในบ้าน ประกอบด้วย สายวงจรย่อย

สายวงจรย่อย คือสายไฟฟ้าที่เดินจากอุปกรณป้องกันกระแสเกินตัวสุดท้าย (เซอร์กิตเบรคเกอร์ตัวลูกย่อย) ไปยังจุดจ่ายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า เต้ารับ หรือดวงโคม ข้อมูลที่สำคัญ สำหรับวงจรย่อย มีดังต่อไปนี้

1. สายวงจรย่อยต้องใช้สายตัวนำทองแดงมีฉนวนหุ้ม เช่นสาย 60227 IEC 01 (THW) หรือ VAF เป็นต้น
คลิกดูสายไฟชนิดต่างๆ

2. ต้องคำนวณโหลดของวงจรย่อยแต่ละวงจรเพื่อหาขนาดตัวนำสายวงจรย่อย แต่ทั้งนี้ขนาดต้องไม่เล็กกว่า 2.5 ตร.มม.

3. ขนาดตัวนำสายวงจรย่อยที่แนะนำสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปเป็นดังนี้     

3.1 วงจรย่อยสำหรับเต้ารับ ที่จ่ายให้เต้ารับหลายจุด ควรใช้ขนาดตัวนำ 4 ตร.มม. ขึ้นไป
3.2 วงจรย่อยสำหรับดวงโคม ขนาดตัวนำ 2.5 ตร.มม. ขึ้นไป ควรกำหนดวงจรย่อยแยกสำหรับเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำอุ่นแต่ละเครื่อง

4.สีฉนวนของสายวงจรย่อยกรณีใช้สาย 60227 IEC 01 (THW)
4.1 สายเส้นไฟ : ไม่บังคับ สามารถใช้สีแตกต่างกันสำหรับแต่ละวงจรย่อยเพื่อความสะดวกในการแยกวงจร แต่ห้ามใช้สีฟ้า สีเขียว และสีเขียวแถบเหลือง
4.2 สายนิวทรัล : สีฟ้า
4.3สายดิน : สีเขียว หรือสีเขียวแถบเหลือง

5. กรณีบ้านสองชั้นขึ้นไป ต้องแยกวงจรย่อย อย่างน้อยชั้นละ 1 วงจร

6. สำหรับวงจรย่อยของชั้นล่าง แนะนำให้แบ่งวงจรย่อยอย่างน้อยดังนี้ 6.1 ไฟฟ้าแสงสว่างภายในอาคาร 6.2 เต้ารับภายในอาคาร 6.3 เต้ารับภายนอกอาคาร

7. สายที่แยกจากจุดต่อสายวงจรย่อยเข้าดวงโคมแสงสว่างแต่ละดวง ควรใช้ขนาดไม่ต่ำกว่า 1.5 ตร.มม.

8. สายที่แยกจากจุดต่อสายวงจรย่อยเข้าเต้ารับแต่ละจุด  ควรใช้ขนาดไม่ต่ำกว่า 2.5 ตร.มม.

9. สายนิวทรัลใช้สีฟ้า และเลือกขนาดเท่ากับสายเฟส (สายเส้นไฟ)

10. ขนาดต่ำสุดของสายต่อหลักดินพิจารณาจากขนาดของสายเมนตามที่กำหนดตาราง

11. ขนาดต่ำสุดของสายดินของวงจรย่อยพิจารณาจากขนาดเซอร์กิตเบรคเกอร์ตามที่กำหนดในตาราง

ตางรางขนาดสายไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับวงจรภายในบ้าน

วงจรไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม การเลือกขนาดสายไฟฟ้าสำหรับแต่ละวงจรต้องเลือกให้สัมพันธ์กับขนาดพิกัดของเซอร์กิตเบรคเกอร์ด้วย โดยต้องคำนึงเสมอว่า พิกัดกระแสไฟฟ้าของสายที่เลือกต้องไม่ต่ำกว่าขนาดพิกัดของเซอร์กิตเบรคเกอร์ เพราะเมื่อเกิดภาวะโหลดเกินเซอร์กิตเบรคเกอร์ต้องตัดวงจรก่อนที่กระแสจะเกินกว่าพิกัดที่สายไฟฟ้าจะรับได้   เพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟฟ้าเสียหายได้

สอบถามสั่งซื้อสายไฟฟ้าและเทปพันสายไฟ

Line : @phelspdodge_th

เฟ้ลปส์ ดอด์จ ผู้ผลิตสายไฟฟ้าที่ดีที่สุด

Tel. ‭02 680 5800‬
www.pdcable.com
E-mail : Marketing@pdcable.com

ความรู้ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน

เป็นอีกเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

เคยทราบกันไหมคะ ว่าบ้านที่เราอยู่ทุกวันนั้น
มีการเดินสายไฟอย่างไร?

ระบบสายไฟภายในบ้าน

ความรู้ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ระบบสายไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นอีกเรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้ค่ะ เนื่องจากปัจจุบันจะนิยมติดตั้งสายไฟฟ้าโดยเดิน ซ่อนสายไว้ในผนังหรือฝ้าเพดาน ทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านแทบไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าตาของสายไฟฟ้า และ ขนาดของสายไฟฟ้าที่ติดตั้งในบ้านได้เลย นอกจากพี่ๆช่างไฟฟ้าที่เป็นผู้ติดตั้ง หรือเมื่อเจ้าของบ้านต้องทำการแก้ไขต่อเติมระบบไฟฟ้าในบ้าน ดังนั้นหากมีโอกาสที่ต้องเดินสายไฟฟ้าในบ้านเมื่อใด ควรต้องแน่ใจว่าได้เลือกใช้สายไฟฟ้าอย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยต่อการติดตั้ง 

เฟ้ลปส์ ดอด์จ จะขอแบ่งปันความรู้ เรื่องการเลือกใช้สายไฟฟ้าและการติดตั้งสายไฟฟ้าสำหรับบ้านพักอาศัย ที่ถูกต้องและปลอดภัยตามมาตรฐาน โดยสามารถดูได้จากภาพประกอบด้านล่าง

สายไฟในบ้าน

1. สายเมน (สายประธาน) คือสายไฟฟ้าที่เดินจากมิเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาที่แผงเมนสวิตช์ (ตู้เมนไฟฟ้าหรือตู้คอนซูเมอร์) ของบ้านนั่นเอง

  1. สายเมนต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรองรับโหลดรวมของทุกวงจรย่อยได้
  2. ตัวนำสายเมนต้องรับกระแสได้ไม่น้อยกว่า 1.25 เท่าของโหลดสูงสุดของมิเตอร์ไฟฟ้า และต้องไม่เล็กกว่าขนาดตามที่ระบุในตาราง
  3. สายเมนควรเลือกใช้สายตัวนำทองแดงหุ้มฉนวน เช่น สาย 60227 IEC 01 (THW)   https://www.pdcable.com/product-household/
  4. สายเมนชนิดตัวนำอลูมิเนียมหุ้มฉนวน เช่นสาย THW-A อนุญาตให้ใช้ได้สำหรับการเดินสายลอยในอากาศภายนอกอาคารในเขตการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเท่านั้น และขนาดต้องไม่เล็กกว่า 10 ตร.มม. แต่สายเมนส่วนที่เดินในอาคารต้องใช้สายตัวนำทองแดง
  5. สีของสายเมน อยู่ในข้อยกเว้น ไม่จำเป็นต้องใช้สีน้ำตาลและฟ้า อาจใช้สายสีดำแล้วทำเครื่องหมายสำหรับสายเส้นไฟและนิวทรัลได้  https://goo.gl/oZoNZQ

สอบถามสั่งซื้อสายไฟฟ้าและเทปพันสายไฟ

Line : @phelspdodge_th

เฟ้ลปส์ ดอด์จ ผู้ผลิตสายไฟฟ้าที่ดีที่สุด

Tel. ‭02 680 5800‬
www.pdcable.com
E-mail : Marketing@pdcable.com

 ไขข้อสงสัย สายไฟชนิด NYY และ 60227 IEC 10 แตกต่างกันอย่างไร ?

สายไฟชนิด NYY และ 60227 IEC 10 แตกต่างกันอย่างไร

สายไฟฟ้าชนิด NYY แบบหลายแกน และชนิด 60227 IEC 10  ต่างก็มีโครงสร้างสายที่เหมือนกัน คือเป็นสายตัวนำทองแดงหุ้มฉนวน PVC และมีเปลือก PVC หุ้มอีก 2 ชั้น คือเปลือกชั้นในและเปลือกชั้นนอก ซึ่งถ้ามองด้วยสายตาจากภายนอกก็แทบจะแยกความแตกต่างกันไม่ออกเลยทีเดียว

ถึงแม้สายไฟทั้ง 2 ชนิดนี้ จะมีโครงสร้างสายที่เหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว เป็นสายคนละชนิดกัน และมีข้อกำหนดในการติดตั้งใช้งานแตกต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ เพื่อจะได้ใช้งานและติดตั้งสายไฟฟ้าได้อย่างถูกต้องตรงตามมาตรฐานกำหนด 

ความแตกต่างของสายไฟฟ้าชนิด NYY แบบหลายแกน และสายชนิด 60227 IEC 10 ที่สำคัญคือ

  1.       อ้างอิงมาตรฐาน มอก. คนละฉบับกัน
  2.       พิกัดแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เท่ากัน
  3.       มีขนาดตัวนำให้เลือกใช้งานไม่เท่ากัน
  4.       มีข้อกำหนดวิธีการติดตั้งสายแตกต่างกัน

 

เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเลือกใช้งาน สายไฟชนิด NYY และ 60227 IEC 10  เฟ้ลปส์ ดอด์จได้สรุปข้อแตกต่างของสายไฟทั้ง 2 ชนิดไว้ในตาราง ดังนี้

ความแตกต่างของสายไฟฟ้าชนิด NYY และชนิด 60227 IEC 10

สายไฟชนิด NYY และ 60227 IEC 10 แตกต่างกันอย่างไร

จากข้อมูลในตาราง สายไฟฟ้าชนิด 60227 IEC 10 หรือที่นิยมเรียกว่าสาย IEC 10 มีความแตกต่างจากสาย NYY อย่างชัดเจน เพราะแม้ว่าจะอ้างอิงมาตรฐาน มอก.11 เหมือนกัน แต่เป็นมาตรฐานคนละฉบับกัน คือสาย NYY อ้างอิงมาตรฐาน มอก.11 เล่ม 101 – 2559 ส่วนสาย 60227 IEC 10 อ้างอิงมาตรฐาน มอก.11 เล่ม 4 – 2553 โดยมีข้อกำหนดสำหรับสายไฟฟ้าทั้งสองชนิดแยกออกจากกันอย่างชัดเจน

มาตรฐาน มอก.11 ถูกร่างขึ้นโดยรับเอาสายไฟฟ้าตามมาตรฐาน IEC 60227 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลมาใช้ โดยสายไฟฟ้าชนิด 60227 IEC 10 เป็นหนึ่งในสายที่รับมาจากมาตรฐาน IEC 60227 ดังนั้นจึงเป็นสายไฟฟ้าที่เป็นที่รู้จักและมีการใช้งานกันโดยทั่วไปในต่างประเทศด้วย

ส่วนสายชนิด NYY ไม่มีอยู่ในมาตรฐาน IEC 60227  (สังเกตจากชื่อสายไม่ได้เป็นรหัสชนิด 60227 IEC XX) แต่เป็นสายที่เพิ่มเข้าไปในมาตรฐาน มอก.11 เพื่อให้มีชนิดสายไฟฟ้าครอบคลุมลักษณะการใช้งานสำหรับประเทศไทย ดังนั้น สายไฟชนิด NYY ตามมาตรฐาน มอก.11-2559 จึงไม่ใช่สายชนิดที่เป็นสากลตามมาตรฐาน IEC 60227

จุดสังเกตในการแยกความแตกต่างของสายไฟฟ้าทั้งสองชนิดนี้คือ พิกัดแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน โดยสาย NYY มีพิกัดแรงดันไฟฟ้า 450/750V ส่วนสาย 60227 IEC 10 มีพิกัดแรงดันไฟฟ้า 300/500V ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากข้อความที่พิมพ์ระบุอยู่บนสายไฟฟ้า บนฉลาก หรือบนล้อบรรจุสายไฟ

ตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย สายไฟฟ้าชนิด NYY และ 60227 IEC 10 สามารถใช้ในงานทั่วไป โดยใช้วิธีการติดตั้งสายไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญคือ สายไฟฟ้าชนิด 60227 IEC 10 ไม่สามารถใช้ติดตั้งร้อยท่อฝังดินหรือฝังดินโดยตรง และไม่ใช้ในการเดินลอยในอากาศเหมือนสาย NYY ดังแสดงในตาราง

วิธีการติดตั้งสายไฟฟ้าชนิด NYY และ 60227 IEC 10

สายไฟชนิด NYY และ 60227 IEC 10 แตกต่างกันอย่างไร

นอกจากนี้ ในต่างประเทศ ยังมีการใช้งานสายไฟฟ้าที่ใช้ชื่อ NYY เหมือนกัน ซึ่งมักจะอ้างอิงมาตรฐาน VDE และมีพิกัดแรงดัน 0.6/1 kV ซึ่งสาย NYY มาตรฐาน VDE นี้ แม้จะมีชื่อสาย NYY เหมือนกัน แต่มีคุณสมบัติไม่เหมือนกันกับสาย NYY มาตรฐาน มอก.11 เล่ม 101-2559 ของประเทศไทย เนื่องจากอ้างอิงมาตรฐานคนละฉบับ จึงมีข้อกำหนดในรายละเอียดของวัสดุ โครงสร้าง และการทดสอบสายแตกต่างกัน ดังนั้นสาย NYY มาตรฐาน VDE ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.11 เล่ม 101-2559 นี้ จึงเป็นสายคนละชนิดกันและไม่ได้อยู่ในมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย

อย่าลืมติดตามว่าเฟ้ลปส์ ดอด์จ จะนำบทความดี ๆ อะไรมาฝากกันอีกนะคะ

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่


ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


More Catalog

Price List

Extra high – high voltage Power cables

Medium voltage power cables

Low Voltage Power and Control Cables

Fire Resistant and Low Smoke Halogen Free cables 

Telecommunication Cables

Building Wire and Bare Conductor

ชื่อสาย : NYY, NYY-G

โครงสร้างสาย : สายไฟ NYY , NYY-G ตัวนำทองแดงเส้นเดี่ยวแข็งหรือตีเกลียว, ฉนวนพีวีซี, มีทั้งแกนเดียวและหลายแกน
แรงดัน :  450/750 V
ขนาด : แกนเดียว : 1-500 sq.mm. หลายแกน : 50-300 sq.mm.
มาตรฐาน : มอก. 11-2559
การใช้งาน : สายไฟ NYY, NYY-G ที่ใช้เดินภายในและภายนอกอาคาร นิยมใช้เดินร้อยท่อฝังดินหรือฝังดินโดยตรงในสวน
หรือก่อนเข้าอาคาร, สายไฟ NYY, NYY-G สามารถร้อยท่อฝังผนังคอนกรีต, ร้อยท่อเดินใต้ฝ้า,เดินในช่องเดินสาย
และต้องป้องกันน้ำเข้าช่องเดินสาย, สาย NYY , NYY-G สามารถวางบนรางเคเบิล, เดินลอยในอากาศ, เดินบนฉนวนลูกถ้วย
Continue reading “NYY, NYY-G”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ตั้งค่าทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ที่เกี่ยวกับดำเนินการฟังก์ชัน

    ยินยอมให้ใช้ Functionality Cookies ที่ทำหน้าที่จดจำการตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบแพลตฟอร์ม

  • คุกกี้ประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์

    ยินยอมให้ใช้ Performance Cookies เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์เพื่อการปรับปรุง

  • คุกกี้วิเคราะห์สำหรับการโฆษณา

    ยินยอมให้ใช้ Advertising Cookies เพื่อการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจได้มากขึ้น

บันทึก